วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2560

ฮายาชิไรซ์

ฮายาชิไรซ์ (Hayashi rice)


ฮายาชิไรซ์ (Hayashi rice)
ฮายาชิเป็นเมนูที่ได้รับวัฒนธรรมจากตะวันตก คล้ายสตูเนื้อ แคร็อท เห็ด และที่สำคัญเดมิกาซอสที่มีส่วนผสมของไวน์ ต้มเคี่ยวจนงวดและเปื่อย ราดบนข้าว

เครื่องปรุง 

- เนื้อสัน หั่นบาง 200 กรัม (เคล้าเกลือ ครึ่งชช., พริกไทยนิดหน่อย)
- หอมใหญ่ 1 หัว
- แครอท 1 หัว
- กระเทียม 1 กลีบใหญ่
- ไวน์แดง ครึ่งถ้วย ( 100 ซีซี)
- เนื้อมะเขือเทศต้ม 1 กระป๋องเล็ก( 200 กรัม)
- เดมิกราสซอส 1 กระป๋อง( 285 กรัม)
- น้ำซุปเนื้อ (ใช้ซุปบุยยองสำเร็จ 1 ก้อนมาละลายน้ำ) 2 ถ้วย ( 400 ซีซี)
- ใบกระวาน 1 ใบ
- เกลือ ครึ่ง ชช., พริกไทย นิดหน่อย
- ข้าว 600 – 800 กรัม
- น้ำมัน, เนย, แป้งสาลี

วิธีปรุง
1. หั่นเนื้อบางๆ กว้างราว 4 -5 ซม. เคล้าเกลือ+พริกไทยไว้
2. หอมใหญ่หั่นครึ่งตามแนวตั้ง แล้วหั่นเสี้ยวบาง, แครอท หั่นแว่นหนาราวครึ่งเซ็นต์ แล้วหั่นครึ่ง, สับกระเทียม
3. ตั้งหม้อ หรือกะทะก้นลึกใส่น้ำมัน 1 ชต. พอร้อน ใส่เนื้อลงผัดด้วยไฟแรง แค่พอเปลี่ยนสี ตักขึ้นพักไว้
4. เติมเนยลงไป 1 ชต.ครึ่ง ผัดกระเทียมสับด้วยไฟอ่อน ให้มีกลิ่นหอมโชยขึ้น ใส่หอมใหญ่ + แครอทลงผัด จนกระทั่งหอมใหญ่อ่อนตัวใสขึ้น ปรับไฟแรง เติมไวน์ลงไป ต้มจนน้ำเหลือครึ่งหนึ่ง
5. โรยแป้งสาลีลงไป 2 ชต. รีบคนให้เข้ากัน ไม่เป็นเม็ดแป้ง จึงใส่เนื้อมะเขือเทศต้ม, เดอมิกราสซอส, น้ำซุปเนื้อ, ใบกระวาน...คนให้เข้ากัน ต้มไฟแรง...เดือดแล้ว ช้อนฟองทิ้ง ปรับไฟอ่อน ต้มไป 15 นาที (ระหว่างนี้ คอยคนไว้บ้าง)
6. ใส่เนื้อที่ผัดไว้ลงไปต้มต่ออีก 10 นาที เพิ่มรสด้วยเกลือ และพริกไทย
7. เสิร์ฟโดยตักซอสราดข้าว เป็นอาหารจานเดียวค่ะ


ข้าวหน้าไข่ออมเล็ต, ออมไรสึ

ข้าวหน้าไข่ออมเล็ต, ออมไรสึ (Omu Raisu)



ข้าวหน้าไข่ออมเล็ต, ออมไรสึ (Omu Raisu)
เป็นเมนูที่หาทาได้ทั่วไปตามร้าน ส่วนใหญ่จะทำเป็นข้าวผัดใส่ไก่แล้ววางด้านบนหรือห่อด้วยไข่ออมเล็ตทอดเป็นก้อนกลมๆรีๆ ราดด้วยซอสมะเขือเทศ แกงกะหรี่  ซอสฮายาชิ หรือเดมิกาซอส

ส่วนประกอบ
1.หอมใหญ่สับหยาบ
2.พริกหยวก สับหยาบ
3.มะเขือเทศหั่นเต๋า
4.มันฝรั่งหั่นเตาลวกสุก(ในน้ำเกลือ)
5.แฮมหั่นเหลียม
6.เห็ด หั่นลวกสุก(ในน้ำเกลือ)
7.เนยสด  รสเค็ม
8. นมสด
9.ผงปรุงรส
10.ซอสปรุงรส หรือ เกลือ
11.ไข่ไก่สด

วิธีทำไข่ออมเล็ต:
1. เวลาทำไข่ออมเล็ตหรือไข่คน อย่าทำทีเดียวกันหลาย ๆ จาน ให้ทำทีละจานจะได้ออมเล็ตที่นุ่มเยิ้มน่ากิน ให้แยกไข่ขาวไข่แดง ตีไข่ขาวให้ฟูเบาเป็นฟองอากาศเล็ก ๆ แล้วค่อยผสมไข่แดงลงไปตีรวมกันให้เข้ากันดี เหยาะเกลือพริกไทยเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ
2. ใช้กระทะเคลือบตั้งไฟ ใส่น้ำมันเล็กน้อย เทไข่ที่ตีรวมกันไว้ลงไปแล้วหมุนกระทะให้ไข่แผ่ทั่วกระทะ ปิดฝาทิ้งไว้ 2 นาที
3. ใส่ผักที่สับละเอียดไว้ลงไป 1 ใน 4 ส่วน ปิดฝาทิ้งไว้อีก 2 นาที
4. โรยชีสขูดลงไป 1 ช้อนโต๊ะ แล้วรอให้สุกกลาง ๆ ม้วนไข่ในกระทะให้พับลงมาปิดให้พอดี อย่าให้เหลื่อมกัน แล้วใส่จานเสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมกับเบคบีนและขนมปังโฮลวีท

อันปัง

อันปัง (Anpan)


อันปัง (Anpan)
ขนมปังของหวานที่มีมาตั้งแต่สมัยเมจิ นิยมสอดไส้ด้วยถั่วแดงกวน

ส่วนผสม

-แป้งเอนกประสงค์ 295 กรัม
-ผงฟู 1/2 ช้อนชา
-เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
-เนยเค็ม 170 กรัม
-น้ำตาลทรายป่น 200 กรัม
-ไข่ไก่ฟองใหญ่ 1 ฟอง
-กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
บัตเตอร์มิลค์ 180 มิลลิลิตร (นมจืด 1 ถ้วยตวง + น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ หรือ โยเกิร์ต 200 กรัม + น้ำเปล่า 5 ช้อนโต๊ะ สัดส่วนตามนี้เลย)

วิธีทำ

1.เริ่มจากวอร์มเตาอบ ที่190 องศาC  ไฟบน – ล่าง


2.นำแป้งแป้งเอนกประสงค์  ผงฟู เบกกิ้งโซดา ไปร่อนเข้าด้วยกัน


3.จากนั้นตีเนยกับน้ำตาลให้ขึ้นฟูและสีอ่อนลง เติมไข่ ตามด้วยกลิ่นวานิลาลง ตีให้เข้ากัน

เมล่อนปัง

 เมล่อนปัง (Melon Pan)


 เมล่อนปัง (Melon Pan)
ขนมปังรสเมล่อน บางร้านใช้น้ำและเนื้อเมล่อนแท้ในการปรุงกลิ่นและรส มีขายทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อ

สำหรับทำขนมปังลูกเล็ก ๆ  8 ลูก
ตัวแป้งขนมปัง

・แป้งทำขนมปัง   150 กรัม
・ยีสต์แห้ง   1 ช้อนชา ( 3 กรัม )
・น้ำตาลทราย   2 ช้อนโต๊ะ ( 20 กรัม )
・น้ำ   80 มิลลิลิตร
・ไข่ตีจนเข้ากัน   1 ช้อนโต๊ะ
・เกลือ   ¼ ช้อนชา
・เนย   10 กรัม

ตัวแป้งคุกกี้ 
・แป้งทำเค้ก   100 กรัม
・ผงฟู (baking powder)   ¼  ช้อนชา
・ผิวมะนาวเมลอนขูด   ½ ลูก
・เนย   40 กรัม
・ไข่แดง   1 ฟอง
・นมหรือน้ำ   1 ช้อนโต๊ะ
・น้ำตาลทราย   3 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
・น้ำตาลทรายเม็ดหยาบ พอประมาณ

วิธีทำ

  1. เริ่มทำตัวแป้งขนมปัง ผสมน้ำให้เข้ากับยีสต์แห้งในชามอ่าง เติมไข่ที่ตีเข้ากันแล้ว น้ำตาลทราย แป้งทำขนมปังและเกลือลงไปผสม จัดให้ส่วนผสมของตัวแป้งรวมตัวกันเป็นก้อน นำตัวแป้งจากชามอ่างมาวางบนพื้นกระดานหรือโต๊ะ นวดจนตัวแป้งนุ่มขึ้น จากนั้นยกตัวแป้งขึ้นเหวี่ยงลงไปกระแทกบนกระดานหรือโต๊ะ และนวดสลับกันไปอีกประมาณ 10 นาที
  2. วางเนยก้อนเล็ก ๆ กระจายทั่วตัวแป้ง ยกตัวแป้งขึ้นเหวี่ยงลงไปกระแทกและนวดสลับกันอีกประมาณ 5 นาที ปั้นตัวแป้งให้เป็นลูกกลม ๆ และนำไปวางในชามอ่างที่ทาเนยด้านในบาง ๆ เอาไว้
  3. คลุมชามอ่างด้วยพลาสติกคลุมอาหารเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวแป้งแห้ง ตั้งชามอ่างในที่อุ่น ๆ และปล่อยให้ตัวแป้งฟูตัวเป็นครั้งที่ 1 ประมาณ 30-40 นาที ถ้าในห้องครัวมีอากาศเย็น ก็สามารถซ้อนชามอ่างของตัวแป้งลงบนชามอ่างที่มีขนาดใหญ่กว่าอีกใบหนึ่งและที่ใส่น้ำอุ่นประมาณ 37 องศาเซลเซียส
  4. ระหว่างที่รอให้ตัวแป้งขนมปังฟูตัว ให้เตรียมทำตัวแป้งคุกกี้ ร่อนแป้งและผงฟู ขูดผิวมะนาว ตีเนยให้เป็นครีมและใส่น้ำตาลทรายลงไปตีให้เข้ากันจนได้เนื้อสีขาว เติมนม ไข่แดงและผิวมะนาวขูดลงไปผสม เทแป้งตามลงไปและคลุกให้เข้ากัน ปั้นตัวแป้งคุกกี้ให้เป็นรูปทรงกระบอกยาว ๆ คลุมด้วยถุงพลาสติกหรือพลาสติกสำหรับทำอาหาร นำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 20 นาที
  5. หลังจากที่ตัวแป้งขนมปังฟูตัวขึ้นเป็น 2 เท่า แบ่งตัวแป้งออกเป็น 8 ส่วน กลิ้งตัวแป้งบนฝ่ามือเพื่อไล่อากาศที่มากเกินไปออกและปั้นให้เป็นลูกกลม ๆ คลุมด้วยพลาสติกสำหรับทำอาหารและตั้งพักไว้อีกประมาณ 10 นาที

โอชะสุเกะ

โอชะสุเกะ (Ochazuke)


โอชะสุเกะ (Ochazuke)
เป็นเมนูที่ทานร้อนๆ โดยการรินน้ำชาในข้าว วางท็อปปิ้งด้วยของดองเค็มต่างๆเช่น ผักดอง สาหร่าย งา บ๊วยดอง อาหารทะเลดอง ตามใจชอบ อาจเสริมรสด้วยวาซาบิก็ได้

ส่วนประกอบและวิธีทำข้าวแช่น้ำชา
1 เตรียมข้าวสวยหุงสุกประมาณ 1 ถ้วย

2 เตรียมเครื่องเคียงพวกปลาย่างหรือกุ้งทอด วางลงไปบนข้าว

3 ใส่น้ำชาร้อนๆ ลงไปจนท่วมข้าวในถ้วย เสริฟได้ทันที ให้ทานตอนร้อนๆ จะมีรสชาติดีและหอมอร่อย

เทคนิคการทำ ข้าวแช่น้ำชา
1 ในวิธีทำของญี่ปุ่น เขาใช้ข้าวหอมญี่ปุ่น บ้านเราหาไม่ได้ ผมเลยใช้ข้าวหอมมะลิแทน ตำรวจญี่ปุ่นคงไม่ขึ้นเครื่องบินมาจับแน่ๆ ข้อหาแก้ไขอาหารเขา หุหุหุ เวลาหุงก็อย่าให้แฉะ ข้าวจะได้เป็นเม็อสวยน่าทาน บังเอิญผมได้ข้าวหอมมะลิใหม่ๆ มาจากร้อยเอ็ด หุงแล้วหอมมาก ทานอร่อยด้วย ก็เลยลงล็อคพอดีเลยกับเมนูนี้
2 เทคนิคการชงชาให้ย้อนกลับไปอ่านในบทความก่อนนี้
3สามารถใส่ส่วนผสมอื่นๆ ตามชอบ เช่น ของดอง บ๊วยดอง สาหร่าย ผงโรยข้าว ทาราโกะ เมนไทโกะ แซลมอนย่างเกลือ วาซาบิ และอื่นๆ ตามชอบลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความอร่อยและความหลากหลายก็ได้ด้วย
3 อาหารที่ผมทำดูๆ แล้วไม่มีบรรยากาศของญี่ปุ่นเอาซะเลย พอดีมีแซลมอลอยู่ติดตู้เย็นนิดหน่อยเลยเอามากริวแล้ววางโปะลงไปบนข้าว แล้วเอาสาหร่ายเถ้าแก่น้อยมาตัดเป็นเส้นวางทับอีกที ได้กับแกล้มข้าวเพิ่มขึ้น และพอถูไถว่าน่าจะเป็นข้าวของญี่ปุ่นได้บ้าง

เมนไทโกะ

 เมนไทโกะ (Mentaiko)


เมนไทโกะ (Mentaiko)
เมนไทโกะเป็นไข่ปลาพอลล็อค(Pollock) ที่นำไปหมักด้วยโชยุ หรือพริก แล้วแต่สูตรของผู้ผลิต ทานเป็นไส้ข้าวปั้นหรือทานเดี่ยว มีรสชาติเข้มข้นเด่นเป็นเอกลักษณ์  ชาวญี่ปุ่นเองหลายคนก็ชอบและไม่ชอบในรสชาติของมัน เป็นที่นิยมทั่วไปถึงขนาดทำเป็นรสมันฝรั่งทอด

ส่วนผสม
เส้นสปาเกตตี80 กรัม
ไข่ปลาเมนไทโกะ2 ช้อนโต๊ะ
มายองเนส3 ช้อนโต๊ะ
เนยสดชนิดเค็มละลาย1 ช้อนโต๊ะ
โชยุ (ซีอี๊วญี่ปุ่น)1 ช้อนโต๊ะ
สาหร่ายตัดชิ้นเล็ก สำหรับโรย
ไข่ปลาเมนไทโกะ สำหรับตกแต่ง
เกลือป่นเล็กน้อย
น้ำมันพืชเล็กน้อย
น้ำเปล่าวิธีทำ
1.ต้มน้ำเปล่าพอเดือดใส่เกลือป่น น้ำมันพืช และเส้นสปาเกตตีลงต้มประมาณ 5 นาที หรือจนสุกตักขึ้น ใส่กระชอนผ่านน้ำเปล่าจนคลายความร้อนเตรียมไว้
2. ผสมไข่ปลาเมนไทโกะ มายองเนส เนยสดละลาย และโชยุ คนให้เข้ากัน ใส่เส้นสปาเกตตี คลุกเคล้าให้เข้ากัน จัดใส่จานตกแต่งด้วยไข่ปลาเมนไทโกะโรยสาหร่าย จัดเสิร์ฟ

โอเด้ง

โอเด้ง (Oden)


โอเด้ง (Oden)
เป็นเมนูหนึ่งที่ใช้ส่วนประกอบหลากหลายต้มอยู่ในน้ำซุปที่ปรุงรสอ่อนๆด้วยโชยุหรือมิโสะ(เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) ส่วนประกอบที่นิยมในโอเด้งได้แก่ หัวไชเท้า ไข่ต้ม ก้อนบุกคอนเนียคุ ลูกชิ้นปลา แครอท กะหล่ำปลีสอดไส้ เต้าหู้ จิคุวะ(ลูกชิ้นปลาแบบแท่งหลอดยาว) นิยมทานในหน้าหนาวและถือเป็นเมนูกับแกล้มในร้านเบียร์ ในร้านโอเด้งที่มีชื่อเสียงบางร้านในโตเกียวออกมายืนยันว่าไม่เคยเปลี่ยนน้ำซุปเก่าออกหมดเป็นเวลาถึง 60 ปี

วัตถุดิบโอเด้ง

1. ลูกชิ้นญี่ปุ่น 1-2 ห่อ (แล้วแต่ชอบ)
2. ชิกุวะ 1 ห่อ
3. คามาโบโก 4-5 ชิ้น
4. หัวไชเท้า 1/2 หัว
5. เต้าหู้ทอด 1 ห่อ
6. บุกขาว 3-4 ชิ้น


วิธีทำโอเด้ง 

1. นำส่วนผสมที่ทำน้ำซุปใส่หม้อ และใส่หัวไชเท้าด้วย ต้มให้เดือด
2. นำส่วนผสมพวกเครื่องต่างๆใส่ลงหม้อต้มไฟอ่อนไปเรื่อยๆประมาณ 30-45 นาที ให้หัวไชเท้านิ่ม
3. ปิดเตาตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ


ซาชิมิ

ซาชิมิ (Sashimi)


ซาชิมิ (Sashimi)
ซาชิมิหมายถึงอาหารทะเล หรือเนื้อสัตว์ต่างๆ ต้องสดใหม่ คุณภาพสูง เพราะจะทานแบบดิบๆโดยแล่เป็นแผ่นบางๆ ให้เคี้ยวง่าย ในญี่ปุ่นการจัดเรียงซาชิมิในจานเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่เชฟให้ความสำคัญ เพื่อให้ดูน่าทาน เพราะอาหารดิบๆถ้าไม่สวยหรือจัดวางไม่เรียบร้อยจะทานยากและดูน่าพะอืดพะอมมากกว่าน่ากิน

เครื่องปรุง 

เนื้อปลาตามชอบหั่นชิ้นพองาม     10     ชิ้น 
 ปลาหมึกกระดองหั่นชิ้น     5     ชิ้น 
 แครอท 1/2     ลูก 
 หัวไชเท้า    1/2     ลูก 
 แตงร้าน  1/2     ลูก 
 วาซาบิ 2     ช้อนชา
วิธีทำ
1. ล้างหัวไชเท้า แครอท และแตงร้านให้สะอาด ปลอกเปลือกออกเหลือแต่เนื้อ แล้วขูดเป็นเส้นๆ
2. นำหัวไชเท้า แครอท และแตงร้านที่ขูดแล้วนำมาคลุกเคล้ากัน แล้วแช่เย็นไว้
3. นำเนื้อปลาและปลาหมึกมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ แล้วแช่เย็นไว้เพื่อรักษาความสดและไม่ให้มีกลิ่นคาว
4. เมื่อจะรับประทาน นำผักที่แช่เย็นไว้มาจัดลงจาน จัดเรียงเนื้อปลา และปลาหมึกสดใส่จาน ตกแต่งให้สวยงาม รับประทานคู่กับน้ำจิ้มปลาดิบและวาซาบิ

อิคูระ

 อิคูระ (Ikura)


 อิคูระ (Ikura)
อิคูระหรือไข่ปลาแซลมอนมีสีส้มสด แวววาว รูปร่างกลม ขนาดค่อนข้างใหญ่ถ้าเทียบกับไข่ปลาทั่วไป ส่วนใหญ่ใช้วางเป็นหน้าซูชิหรือข้าวปั้น โดยแช่ซอสโชยุเพื่อปรุงรสชาติ ส่วนใหญ่ทานดิบ


ส่วนผสม


  1. ข้าวหอมมะลิหุงสุก 4 ช้อนโต๊ะ
  2. ปลาแซลมอน 1 ขีด
  3. อิคุระ (ไข่ปลาแซลมอน) 1 ช้อนโต๊ะ
  4. มายองเนส 1 ช้อนโต๊ะ
  5. วาซาบิ โชยุ ขิงดอง
  6. วิธีทำ

    1. ผสมข้าวกับมายองเนสขยำจนปั้นเป็นก้อนได้
    2. วางปลาดิบบนข้าวปั้น
    3. ทานดิบทานได้เลย
    4. ทานสุกนำเข้าไมโครเวฟ ใช้ระบบย่าง 2 นาที
    5. ทานคู่กับ อิคุระ โชยุ วาซาบิ ขิงดอง



ยากิโตริ

ยากิโตริ (Yakitori)


ยากิโตริ (Yakitori)

เป็นเมนูไก่เสียบไม้ปิ้ง ทานเป็นกับแกล้มเบียร์ โดยทั่วไปจะใช้ส่วนประกอบต่างๆของไก่ ในบางร้านอาจจะมีเนื้อหมูบ้าง ใช้ส่วนประกอบต่างของไก่เช่น เนื้อ หนัง ตับ ไส้ ปรุงรสด้วยเกลือหรือซอสโชยุตามแต่ละสูตรของร้าน

วัตถุดิบยากิโทริ

1. เนื้อไก่ (สะโพก เลาะกระดูกแล้ว) 300 กรัม
2. โชยุ 4 ช้อนโต๊ะ
3. มิริน 5 ช้อนโต๊ะ
4. สาเก 5 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
6. ต้นหอมญี่ปุ่น หั่นท่อน 1-2 ต้น
7. พริกหวาน 2-3 เม็ด

วิธีทำยากิโทริ

1. ผสมโชยุ มิริน สาเก และน้ำตาลเป็นตัวน้ำซอสเพื่อหมักไก่ พักไว้
2. นำไก่มาหั่นเป็นลูกเต๋าหนาประมาณ 2 ซม. แล้วนำไก่ไปหมักในน้ำซอสประมาณ 30 นาที
3. นำไก่มาเสียบไม้สลับกับพริกและต้นหอมญี่ปุ่น (ตามชอบ) แล้วนำไปปิ้ง ทาน้ำซอสด้วย ปิ้งจนสุก (ถ้ากลัวข้างในเนื้อไก่ไม่สุก ให้นำไปเข้าไมโครเวฟประมาณ 2-3 นาที) ใส่จานเสิร์ฟ



นิกิริซูชิ

นิกิริซูชิ (Nigiri Sushi)


นิกิริซูชิ (Nigiri Sushi)
เป็นข้าวปั้นซูชิแบบทั่วไปคือข้าวปั้นเป็นก้อนรูปวงรีแล้ววางด้านบนด้วยเนื้อปลาหั่นสไลด์หรืออาหารทะเลต่างๆ เช่นปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาหมึกยักษ์ ไข่หวาน กุ้ง ปลาไหล  

วิธีทำ
1. เริ่มหุงข้าวคะ พอข้าวสุกให้ทิ้งไว้ในหม้อ 10 นาที จากนั้นก็ให้เอาน้ำส้มซูชิราดลงไปคะ ให้ทัพพีคลุกให้ทั่ว จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็น
2. จากนั้นก็เตรียมเครื่องหน้าซูชิ สำหรับมากิ ซูชิก็นำไข่มาเจียว หั่นให้เป็นเส้น (ปรุงรสตามชอบ ส่วนตัวแอบใส่น้ำตาลทรายลงไปด้วยเล็กน้อย อยากบอกจังว่าทอดไข่สำหรับทำซูชิได้ทุเรศมาก แต่ยังไงก็ต้องเอามาม้วนแบบมากิอยู่ดีเลยปล่อยเลยตามเลย) ส่วนแตงกวา ปอกเปลือก ไม่เอาไส้ หั่นชิ้นตามยาว กุ้ง หากทำเป็นมากิซูชิก็ให้เอาหางออก ส่วนทำเป็นหน้านิกิริ ก็ให้เอามาแผ่ให้แบนให้มากที่สุด สำหรับเนื้อปลาตัดชิ้นเหลี่ยมพอคำ ปูอัดนำมาแกะพลาสติกเตรียมไว้ 
3. สำหรับ นิกิริ ซูชิ ให้เอาข้าวมาปั้นหรือสำหรับบ้านนี้เอามาใส่ให้เครื่องทำข้าวปั้นสำเร็จอย่างที่เห็น เอาฝาปิดกดให้แน่น เคาะออก จากนั้นก็เอาหน้าซูชิมาวางลงไป โดยแตะวาซาบิใต้หน้าปลาเล็กน้อย ทำหรับปูอัดก็ให้เอาสาหร่ายมาตัดตามยาวขนาดประมาณ 1 ซม. และเอามาพันรอบข้าวปั้นและปูอัด ส่วนตัวจะใช้ข้าวหนึ่งเม็ดทาติดไว้ที่ปลายสาหร่าย ช่วงปิดสาหร่ายกับข้าวปั้นคะ มันจะได้ติดนาน ๆ (คนอื่นทำแบบไหนไม่รู้ ของบ้านนี้ทำแบบนี้คะ แหะ ๆ)
4. ส่วนอินาริ ซูชิ ก็ให้เอาข้าวปั้นเปล่า ๆ ที่ปั้นเตรียมไว้มาใส่เต้าหู้ถุงทอดคะ ถ้าใครอยากทำไส้เพิ่มก็ตามสบายนะคะ แต่บ้านนี้ชอบเปล่า ๆ แบบนี้หละคะ เต้าหูถุงเขาอร่อยอยู่แล้ว
5. สำหรับมากิ ซูชิ ก็ทำแบบตามรูปเลยคะ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร แต่แนะนำว่าเวลาเอาข้าววางบนสาหร่าย ให้เหลือปลายสาหร่าย 2 ข้างแบบที่เห็น เพราะเวลาม้วน ข้าวจะขยายตัวออกคะ และข้าวก็เกลี่ยให้ไม่หนามากนะคะเวลาวางบนสาหร่าย ไม่เช่นนั้น เวลาม้วนข้าวจะเยอะเกินไส้คะ ดีไม่ดีทะลักอีกตะหาก โดยเทมายองเนสลงไปก่อนตามยาว วางไส้ตามชอบ ค่อย ๆ ม้วน โดยบีบให้กระชับ แต่อย่าแน่นเกิน จากนั้นก็นำมาหั่นความหนาประมาณ 1 ชม. แค่นี้ก็เรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟกับวาซิบิ ขิงดองและซอสญี่ปุ่นคะ










คาเรไรสึ, ข้าวหน้าแกงกะหรี่

คาเรไรสึ, ข้าวหน้าแกงกะหรี่ (Kare Raisu)



คาเรไรสึ, ข้าวหน้าแกงกะหรี่ (Kare Raisu)

แกงกะหรี่ถูกนำเข้ามาตั้งแต่สมัยเมจิ และมีการปรับปรุงรสชาติให้ถูกปากคนญี่ปุ่นคือมีรสอ่อน เผ็ดน้อย แกงกะหรี่นิยมใส่ผักเช่นแครอท มันฝรั่ง หัวหอม และบางครั้งเสิร์ฟคู่กับหมูชุบเกล็ดขนมปังทอดหรือกุ้งเทมปุระ

ส่วนผสม:
ผงแกงกะหรี่รสเผ็ดหรือรสกลางๆตามใจชอบ 1/2 = 119 กรัม (4.2oz.)
เนื้อไก่,เนื้อหมู,เนื้อวัวหรือเนื้ออื่นๆ 250 กรัม (8.8oz.)
หัวหอมขนาดกลาง 2 หัว (400g=14.1oz.) onions
มันฝรั่งขนาดกลาง 1&1/2 (225 กรัม = 7.9oz.)
แครอทขนาดกลาง 1/2 (100 กรัม = 3.5oz.)
น้ำ 850 มล.
น้ำมันปรุงอาหารหรือเนย 1 ช้อนโต๊ะ
ข้าวสวยร้อนๆ 6 ที่

วิธีทำ:
1.หั่นเนื้อไก่,เนื้อหมู,เนื้อวัวหรือเนื้อตามที่คุณเลือกมาให้เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ ตามด้วยหั่นหัวหอม,มันฝรั่งและแครอทให้เป็นชิ้นขนาดพอดีด้วยเหมือนกัน
2.นำน้ำมันปรุงอาหารใส่ลงไปในหม้อต้มตามด้วยหัวหอม,แครอทและมันฝรั่ง จากนั้นผัดหรือคลุกให้เข้ากันกับน้ำมันจนทั่วแล้วใส่เนื้อลงไป และคลุกต่อจนเนื้อไม่มีสีชมพู
3.เติมน้ำ 850 มล. แล้วต้มให้เดือดและตักฟองด้านบนออกให้หมด จากนั้นลดความร้อนลงเพื่อไม่ให้น้ำเดือดจนเกิดไปแล้วต้มต่อเป็นเวลาประมาณ 15 นาที
4.ปิดไฟ นำผงแกงกะหรี่ใส่ลงไปในหม้อแล้วคนให้เข้ากันจนละลายหมด
5.เปิดไฟเพิ่มความร้อนให้หม้อเดือดกรุ่นๆพอเป็นเวลาประมาณ 10 นาทีจนกว่าแกงกะหรี่จะเข้มข้นขึ้น
6.ราดแกงกะหรี่ลงบนข้าวร้อนๆแล้วเสิร์ฟได้เลย



โอโคโนมิยากิ

โอโคโนมิยากิ (Okonomiyaki)



โอโคโนมิยากิ (Okonomiyaki)

ทำจากแป้งที่ผสมด้วยไข่ กะหล่ำปลีซอย ส่วนประกอบอื่นเช่น เนื้อสัตว์ เบคอน อาหารทะเลต่างๆ หรือชีส ตามที่ต้องการ คำว่าโอโคโนมิแปลว่าอะไรก็ได้ที่คุณชอบ ผสมส่วนผสมทั้งหมดแล้วเทแผ่เป็นวงกลมบนกะทะเหล็กแบนร้อน กลับไปมาให้สุก เสร็จแล้วโรยหน้าคล้ายกันกับทาโกะยากิ คือซอสรสออกเค็มหวาน มายองเนส คัตสึโอะบูชิ(ปลาคัตสึโอะสไลด์ตากแห้ง) โอโนริ(สาหร่ายแห้งหั่นเป็นเส้นๆ) เบนิโชกะ(ขิงดอง) ตามใจชอบ

ส่วนผสมที่ต้องเตรียมมีดังต่อไปนี้ 

▪ แป้งสาลีอเนกประสงค์ ¼ ถ้วย
▪ ไข่ไก่ 2 ฟอง
▪ กะหล่ำปลีหั่นฝอย 1½ ถ้วย
▪ เบคอน ¼ ถ้วย
▪ น้ำมัน
▪ ปลาโอแห้ง
▪ สาหร่ายชนิดผง (ไม่มีใช้แบบแผ่นมาตัดเป็นเส้นก็ได้)
▪ มายองเนส
▪ ซอสโอโคโนมิยากิ

วิธีทำ

1. เริ่มจากผสมแป้งก่อน เทแป้งลงไปในอ่างผสม แล้วก็เติมน้ำลงไป ค่อยๆคนช้าๆ ตามด้วยไข่ไก่ และน้ำเปล่า แล้วก็ตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน
2. ใส่กะหล่ำปลีหั่นฝอยและเบคอนลงไปผสม อาจปรุงรสด้วยพริกไทยและเกลือก็ได้ตามใจชอบ เคล้าส่วนผสมให้เข้ากันดี
3. ตั้งกระทะ ทาน้ำมันพืชลงไป
4. พอร้อนแล้วให้ตักส่วนผสมลงไปแล้วเกลี่ยให้เป็นแผ่นกลม
5. ทอดด้วยไฟอ่อน รอประมาณ 4 นาทีหรือจนแป้งสุกเหลืองแล้วพลิกกลับด้าน รออีกประมาณ 5 นาที
6. ตักพิซซ่าขึ้นมาใส่จาน ทาซอสโอโคโนมิยากิลงไปให้ทั่ว
7. แล้วก็ตกแต่งหน้าด้วยมายองเนส ตามด้วยปลาโอแห้ง (katsuobushi) โรยผงสาหร่ายลงไปเป็นอันเสร็จพร้อมทานได้แล้วค่ะ



ฮายาชิไรซ์

ฮายาชิไรซ์ (Hayashi rice) ฮายาชิไรซ์ (Hayashi rice) ฮายาชิเป็นเมนูที่ได้รับวัฒนธรรมจากตะวันตก คล้ายสตูเนื้อ แคร็อท เห็ด และที่สำค...